อุ ภูมิปัญญาพื้นบ้านของชนเผ่าขมุ

    ทีมอารยธาม

    เผยแพร่ 30 ตุลาคม 2568

    ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน การรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นรากเหง้า วิถีชีวิต ความศรัทธา ความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน

    ชนเผ่าขมุ เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มเล็กๆ อาศัยอยู่บริเวณชายแดนจังหวัดเชียงรายและจังหวัดน่าน ชนเผ่าที่มีประเพณีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง นับถือและเซ่นไหว้ผีพร้อมๆ ไปกับการนับถือพระพุทธศาสนา

    เราได้พบ ยายสา ฮังคำ ชาวขมุที่อพยพมาจากประเทศลาว เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่หมู่บ้านใหม่ไชยธงรัตน์ ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน เป็นเวลากว่า 80 ปีแล้ว ระหว่างการพูดคุย เราพบว่ายายสา ยังคงดำเนินชีวิตบนวิถีแบบดั้งเดิมอยู่จนถึงปัจจุบัน ยายสายังคงมีความเชื่อ และรักษาประเพณีในการทำพิธีเซ่นไหว้ผีในงานพิธีกรรมต่างๆ อย่างเคร่งครัด เช่น พิธีเซ่นไหว้ผี พิธีเรียกขวัญ ปีใหม่ เป็นต้น และหนึ่งในสิ่งที่จะขาดไม่ได้ในงานพิธีกรรมเหล่านี้ ก็คือ "อุ" หรือ "เหล้าอุ" ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชนเผ่าขมุโดยเฉพาะ ทุกครอบครัวจะทำเหล้าอุเพื่อนำไปใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ตั้งแต่เกิดจนตาย เหล้าอุ เป็นสุราหมักที่ทำจากข้าวเหนียว นอกจากใช้ในเซ่นไหว้แล้ว ยังใช้เป็นเครื่องดื่มต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือนอีกด้วย

    ยายสาถือเป็นปราชญ์ชาวบ้านตัวจริง ที่ยังคงอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญา ทั้งในด้านพิธีกรรม ด้านเครื่องดนตรี และด้านเครื่องดื่มพื้นบ้าน ให้กับชาวขมุในชุมชนที่ยังมีความสนใจในเรื่องเหล่านี้อยู่

    และเมื่อยายสา อาสาที่จะสาธิตการหมักอุให้ดู พวกเรา ผู้อยากเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่ง จึงไม่รอช้าที่จะเก็บรวบรวมข้อมูล บันทึกและบอกเล่าถึงภูมิปัญญาอันมีค่านี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้คนรุ่นหลังได้รับรู้เรื่องราวและนำไปศึกษาต่อได้

    วัตถุดิบหลักในการทำเหล้าอุมีเพียงแค่ 3 อย่าง ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่หาได้ทั่วไปในครัวเรือนของชาวขมุ นั่นก็คือ แกลบ ข้าวเหนียว และแป้งข้าวเหนียว (แต่ละครอบครัวจะมีสูตรทำแป้งข้าวเหนียวเอง)

    วิธีการทำก็ไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อยเท่านั้นเอง ยายสาเริ่มด้วยการนำแกลบและข้าวเหนียวที่แช่ไว้ 1 คืนแล้วมาคลุกรวมกัน จากนั้น เทใส่หวดเพื่อนึ่งให้สุก

    เมื่อข้าวสุกดีแล้วจึงเทใส่กระด้ง ผึ่งให้หายร้อน เมื่อส่วนผสมคลายความร้อนลงแล้ว โรยแป้งข้าวเหนียวให้ทั่ว แล้วใช้มือคลุกเคล้าให้เข้ากัน ความหอมหวาน กลมกล่อมของเหล้าอุ ขึ้นอยู่กับส่วนผสมตรงนี้ เพราะแป้งข้าวเหนียวของแต่ละบ้านอาจจะมีส่วนผสมในการทำที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งสัดส่วนของวัตถุดิบต่างๆ ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบ้าน จากนั้น นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในถังพลาสติก ปิดฝา แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 3 คืน จากนั้นจึงชิมรสชาติ หากพอใจในรสชาติแล้ว นำส่วนผสมดังกล่าว ใส่ลงในไห และหมักทิ้งไว้อีกราว 30-60 วัน

    เมื่อหมักได้ที่แล้ว ก่อนดื่มจะเทน้ำเปล่าลงไปเต็มไห ทิ้งไว้สัก 1-2 นาที เพื่อให้รสชาติความหวานของอุผสานเข้ากันกับน้ำ จากนั้นปักไม้ไผ่ลงไปในไห แล้วดื่มเหล้าจากไหผ่านไม้ไผ่ หรือใช้หลอดดูดขึ้นมา

    ในการทำเหล้าอุ หรือเมื่อจะนำเหล้าอุที่หมักได้ที่แล้วออกไปนอกพื้นที่ ชาวขมุก็จะมีการทำพิธีกรรม โดยใช้ ใบมะเขือ พริกแดงแห้ง และถ่าน มาวางไว้ที่ปากไห พร้อมทั้งใช้ถ่านขีดเส้นเฉียงไว้ที่ปากไหเป็นการทำสัญลักษณ์ เพราะเชื่อว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ผีสางมาดูดเอาความหวานจากเหล้าที่หมักไว้ออกไป บางบ้านจะนำใบมะเขือและพริกแห้งผสมไว้ในแป้งข้าวเหนียวเลยก็มี

    การหมักเหล้าอุ ส่วนใหญ่จะหมักกันปีละ 2-3 ครั้งเพื่อเก็บไว้ใช้ตลอดทั้งปี โดยจะมีการสืบทอดวิชาความรู้นี้ให้กับลูกผู้หญิงในบ้านทำตั้งแต่ยังเล็ก ชาวขมุในหมู่บ้านนี้ ก็ยังคงสืบทอดวิธีการทำแบบดั้งเดิมกันมาถึงปัจจุบัน

    หากเราเรียนรู้และมองให้ลึกลงไปถึงที่มาที่ไป และการใช้ชีวิตของชนเผ่าขมุ เราอาจพูดได้ว่า เหล้าอุ ไม่ได้เป็นแค่เพียงแค่สุราหมักพื้นบ้านที่เอาไว้ดื่มเท่านั้น แต่ถือเป็นมรดกทางภูมิปัญญามีเรื่องราวเชื่อมโยงกับความเชื่อ และวิถีชีวิตของชาวขมุอย่างแยกไม่ออก การศึกษาและสืบทอดภูมิปัญญาเหล่านี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาอัตลักษณ์และมรดกทางวัฒนธรรมของชนชาวขมุที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยให้คงอยู่สืบไป


    เรื่อง : ณฐ๑

    ภาพ : ทีมสื่ออารยธาม

    ความคิดเห็น