สามัคคีคือพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย ไปด้วยกัน ไปได้ไกลกว่าเดิม

“สามัคคีคือพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย” จากส.ค.ส. ของในหลวงรัชกาลที่ 9 น้อมนำสู่การปฏิบัติ อันเป็นทางรอดที่ไม่อาจทำเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งได้ แต่ต้องเชื่อมโยงพลังของภาคีเครือข่ายเข้าด้วยกัน เมื่อแม่ ป้า ย่า ยาย ชาวบ้าน ร้านค้า วัด โรงเรียน และศูนย์พรรณา คือชุมชนเดียวกัน การสร้างกระบวนการขับเคลื่อนจึงเกิดขึ้น โดยทีมผู้เข้าอบรมขับเคลื่อนสังคมอารยะจะได้เรียนรู้การเข้าชุมชนเพื่อฝึกฝนตนเองและเป็นส่วนหนึ่งของทำงานร่วมกับทีมศูนย์พรรณา กิจกรรมในวันที่ 28 สิงหาคม 2568 จึงเริ่มที่หลักวิชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ โดย อ.อาบอำไพ รัตนภานุ สถาบันอาศรมศิลป์ เรียนรู้โมเดลต้นแบบการขับเคลื่อนสังคมจากศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชุมชนต้นน้ำน่าน โดยแม่กุล ปัญญาวงศ์ และการขับเคลื่อนชุมชนจากศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พอเพียงพรรณา โดยทีมพรรณา และเรียนรู้ก้าวแรกการเข้าชุมชน โดยเข็มเพชร ระหว่างงาน สถาบันอาศรมศิลป์ จากนั้นเคลื่อนจึงขบวนไปฝึกฟัง ฝึกการสร้างความสัมพันธ์ และสร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน “ดีใจที่ตัวเองได้ออกจากเซฟโซน ออกมาจากความเคยชินเดิมมาลองหน้าที่ใหม่ ก็มีพลาดบ้าง ผิดบ้าง ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ แต่ก็ทำผ่านมาได้” เสียงสะท้อนจากผู้เข้าอบรมหลังจากจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์กับชุมชน “วันคลุกคน กิจกรรมเอามื้อสามัคคีคือการคลุกคนให้เข้ากัน ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” แม่กุล ปัญญาวงศ์ กล่าวในกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ณ ไร่มะขาม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นการร่วมแรงกายแรงใจสร้างป่าและจัดการน้ำบนโคกที่บ้านเครือข่ายของทีมผู้เข้าอบรมและทีมอาสาสมัคร จากนั้นในช่วงบ่ายเข้าสู่การประมวลความคิดและพิธีปิดกิจกรรม “ห้องเรียนนี้เป็นการเรียนรู้กลับด้าน เป็นทางรอด เป็นการพึ่งพาตนเองอย่างแท้จริง เมื่อเราเข้าใจหลักปรัชญาแล้วเราก็จะพึ่งตนได้ และแบ่งปันได้” คุณโรจนี ลีลากุล ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการกล่าว “วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะได้ก้าวออกไป ขอให้ระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 และครูบาอาจารย์ของเราที่ได้ทำมา ไม่ว่าเราจะเคยเป็นแบบไหนตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว แล้วเราจะได้เจอกันในอนาคตอีกแน่นอน” คุณพรรณราย พหลโยธิน กล่าวปิดการอบรม :: อบรมทีมขับเคลื่อนสังคมอารยะ วันที่ 25-29 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พอเพียงพรรณา อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา #arayatime #ทีมขับเคลื่อนสังคมอารยะ #พึ่งตนเพื่อชาติ